วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เล่าเรื่องผีห้องน้ำผีสิง



"ดาว นิล" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากห้องเช่าเมื่อสิบปีเศษมาแล้ว ดิฉันเป็นรีเซฟชั่นที่โรงแรมระดับ 3 ดาวอยู่แถวประตูน้ำ มีแขกทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว ถ้าเข้ากะเย็นก็ไปเลิกตีสอง ค่อนข้างเหนื่อยและปวดหัวกับแขกขี้เมา ส่วนมากจะอยู่ในคอฟฟี่ช็อป

แม้ว่าจะมีกัปตันคอยดูแลก็จริง แต่หลายครั้งก็เดือดร้อนมาถึงดิฉันเข้าจนได้

ตอน หัวค่ำยังไม่เท่าไหร่ แต่พอเลย 4-5 ทุ่มแล้วซิคะ แขกหลั่งไหลเข้ามาแน่น โดยเฉพาะคืนศุกร์เสาร์ พอรู้ว่าเมามาจากที่อื่นก็มี เพิ่งออฟสาวจากผับย่านนั้นมาก็มี ขนาดมาจากโรงนวดแล้วก็ไม่น้อย แต่หลายๆ โต๊ะก็มาสนุกเฮฮากันเป็นขาประจำ

ส่วนมากเมาแล้วมักชอบเจ๊าะแจ๊ะกับ เด็กเสิร์ฟ ประเภทปากเปราะก็พูดสองแง่สองง่าม บางทีก็ล่วงเกินมาถึงดิฉัน เราทำงานแบบนี้นะคะ จะหงุดหงิดหรือรำคาญใจแค่ไหนก็ต้องยิ้มไว้ก่อน

"น้อง ตูน" เป็นเด็กเสิร์ฟใหม่ อายุ 20 ต้นๆ ขาวสวย หุ่นดี พวกแขกไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ก็คอยแทะโลมเป็นประจำ หรือไม่ก็แซวแบบคะนองปาก ถ้าลามปามจนทำท่าว่าจะล้ำเส้น ดิฉันก็จะเข้าไปปกป้องน้องตูนไว้ก่อน ทำให้เธอซาบซึ้งมากๆ ขอบคุณน้ำตาคลอเชียว

วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์กลับ ตาลปัตร..น้องตูนเป็นฝ่ายช่วยเหลือดิฉัน ราวกับจะเป็นโอกาสให้เธอได้ตอบแทนน้ำใจ โดยที่เราต่างก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลย

ดิฉันเวียนหัวมาตั้งแต่หัวค่ำ อาจเป็นเพราะความดันเลือดต่ำทำพิษก็ได้ ต้องเข้าไปนอนพักในห้องพนักงานด้านหลังเคาน์เตอร์ โชคดีอย่างที่คืนวันพุธแขกน้อยกว่าวันอื่นๆ เป็นธรรมดาอยู่แล้ว

ฝืน ใจออกมาช่วยดูแลแขกตอนใกล้สองยาม แต่ไม่ช้าก็เกิดวิงเวียนอีก อยากจะขึ้นแท็กซี่กลับบ้านที่ดินแดงก็สองจิตสองใจ กลัวว่าจะไปเป็นอะไรกลางทางละแย่เลย!

พอตีหนึ่งกว่า น้องตูนก็ไปบอกรองผู้จัดการว่าขอพาดิฉันไปหาหมอก่อน..แต่เมื่อขึ้นรถออกมา เธอก็พาดิฉันไปห้องพักแถวหน้าอินทรานั่นแหละค่ะ บอกว่าให้นอนค้างห้องเธอจนกว่าจะทุเลา ดิฉันถามว่าทำไมต้องโกหกด้วย คำตอบของน้องตูนก็คือ

"ถ้าไม่บอกว่าพี่ดาวอาการหนักจนต้องพาไปหาหมอ มีหวังแกไม่ให้เราลางานแน่ๆ เลยค่ะ"

น้อง ตูนเช่าห้องอยู่คนเดียว ดูสะอาดสะอ้านพอใช้ เธอเอาชุดลำลองมาให้เปลี่ยน ช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ด้วย คนเราจะเห็นใจกันก็ยามป่วยไข้นี่แหละค่ะ!

ดับ ไฟแล้วก็เข้านอนด้วยกัน..ขณะที่กำลังเคลิ้มๆ ดิฉันก็ได้ยินเสียงสะอื้นมาเข้าหู ตอนแรกคิดว่าเสียงลมที่ดังผ่านหน้าต่างมุ้งลวดเข้ามา แต่เมื่อนิ่งฟังก็แน่ใจว่ามันดังอยู่ในห้องนั่นเอง..เดี๋ยวที่ห้องน้ำ เดี๋ยวหน้าประตูและมุมห้อง ไม่รู้ว่าของจริงอยู่ที่ไหนกันแน่?

อากาศ ในฤดูฝนเย็นยะเยือก หันมองน้องตูนก็เห็นหลับสนิท ระบายลมหายใจสม่ำเสมอ ดิฉันเลยพลิกตัวนอนตะแคง สองมือซุกอกในท่าสบาย..เสียงประหลาดก็ดังขึ้นอีกแล้วค่ะ คราวนี้เป็นเสียงอาบน้ำ! เสียงซู่ซ่าดังชัดเจน ไม่ใช่หูแว่วเด็ดขาด!!

ดิฉันตัดสินใจลุกมานั่งจ้องไปที่ประตูห้องน้ำ มันปิดสนิทก็จริง แต่เสียงตักน้ำราดเนื้อตัวยังดังไม่หยุด

เอา ละซี! ไม่ใช่ฝัน แต่เป็นของจริงแน่ๆ จะว่ากลัวก็กลัว จะว่ากล้าก็กล้าค่ะ..อาจจะเป็นเพราะมีน้องตูนนอนอยู่บนเตียงทั้งคน ตั้งแต่เข้าห้องมาก็ไม่ได้เปิดประตูออกไปรับใครซักคนนี่นา..แล้วใครมาอาบน้ำ ล่ะ? ตัดสินใจกดสวิตช์ไฟ เปิดประตูห้องน้ำผาง..

ท่ามกลางแสงสว่าง เยือกเย็นนั้น มีแต่ความว่างเปล่า พื้นห้องก็แห้งสนิท..เล่นเอาม่านตาพร่าพรายอย่างช่วยไม่ได้ ปากคอแห้งผากไปหมดเลยค่ะ ตอนที่ถอยกลับมาที่เตียงโดยไม่ยอมปิดไฟ

คุณพระช่วย! เพียงแต่ล้มตัวลงนอน ชักผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงอกเท่านั้น เสียงสะอื้นก็ดังขึ้นอีกแล้ว!

ห้อง นั้นดูสว่างขึ้นกว่าเดิม กลั้นใจมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นอะไรเลย..น้องตูนก็ยังหลับสนิทจนน่าอิจฉา อยากจะปลุกขึ้นมาถามเหลือเกินว่าห้องนี้มีอะไรแน่? แต่ก็เกรงใจน้องที่กำลังนอนหลับอย่างผาสุก

เสียงสะอึกสะอื้นคร่ำคราญ หายไป..เสียงอาบน้ำซู่ซ่าดังขึ้นแทนที่! ดิฉันอ้าปากค้าง..ทั้งๆ ที่ประตูเปิดแง้ม ไฟยังสว่างโพลงตามเดิม โอย..ทนไม่ไหวแล้วค่ะ!

"ตู นๆ" ต้องเขย่าแขนสาวน้อยให้ตื่นจนได้ เธอถามเสียงงัวเงียว่าอะไรคะพี่? ดิฉันยังไม่ทันตอบ เสียงราดน้ำน่าสยองขวัญก็หายไป แต่พอตูนหลับต่อเสียงซู่ซ่าก็ดังขึ้นมาอีก

ดิฉันปลุกตูนขึ้นมาอีก ครั้ง เธอคงนึกอะไรขึ้นมาได้ ถามว่าห้องน้ำทำพิษใช่ไหมคะ? แหม! ตูนก็ลืมบอกให้พี่จุดธูปบอกเขาก่อนนอน..แล้วเธอก็จัดการให้ดิฉันจุดธูป บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง เสียงต่างๆ ก็เงียบไป..ดิฉันสาบานว่าจะไม่ไปนอนค้างที่นั่นจนชั่วชีวิตเลยค่ะ!

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น