วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

สัตว์ประหลาด ปีศาจเจอร์ซีย์ สัตว์ประหลาดในตำนานพื้นถิ่นของชาวรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา

ปีศาจเจอร์ซีย์ สัตว์ประหลาดในตำนานพื้นถิ่นของชาวรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา
ปีศาจเจอร์ซีย์ (Jersey Devil) สัตว์ประหลาดในตำนานพื้นถิ่นของชาวรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ปีศาจเจอร์ซีย์ในบางครั้งจะถูกเรียกว่า ปีศาจลีดส์ (Leeds Devil) เป็นสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายปีศาจตามความเชื่อในคริสต์ศาสนา เชื่อว่ามีความสูงประมาณ 4-6 ฟุต มีส่วนหัวคล้ายม้าหรือแพะ แต่ลำตัวยาวคล้ายงูหรือมังกร มีปีกขนาดใหญ่คล้ายค้างคาว สามารถบินได้บนท้องฟ้า มีหาง 2 แฉก มีเขางอกบนหน้าผากเล็ก ๆ 2 ชิ้น ลำตัวปกคลุมด้วยขนสีดำ


ปีศาจเจอร์ซีย์ เชื่อว่าอาศัยอยู่ในป่าสนที่ชื่อ ไพน์ บาร์เรนส์ อันเป็นป่าสนขนาดใหญ่ในพื้นที่ตอนใต้ของรัฐนิวเจอร์ซีย์ในปี ค.ศ. 1909 มีพยานหลายคนได้ยินเสียงน่าขนลุกจากแม่น้ำเดลาแวร์ และเห็นสัตว์ประหลาดเรืองแสงบินอยู่บนท้องฟ้า นอกจากนั้นยังพบรอยเท้าประหลาดบนหลังคาบ้านหรือบริเวณใกล้กับเล้าไก่อีกด้วย


ในตำนานพื้นถิ่นของการกำเนิดปีศาจเจอร์ซีย์ เล่าว่า มันถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1745 จากการตั้งครรภ์ของผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ เดเบอร่าห์ ลีดส์ โดยเป็นลูกคนที่ 13 ของเธอ (ซึ่งเลข 13 เป็นเลขอัปมงคลตามความเชื่อของคริสต์ศาสนา) ดังนั้นมันจึงได้อีกชื่อหนึ่งว่า ปีศาจลีดส์ ทั้งนี้เป็นเพราะว่าเธอได้ขายวิญญาณให้แก่ปีศาจ จึงถูกสาป

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เล่าเรื่องผี เจอเรื่องสยองที่ป่าช้า

ผมเหลียวหลังมองขอบฟ้าเบื้องตะวันตก เห็นดวงอาทิตย์สีหมากสุกลอยเรี่ยยอดไม้ บ่งบอกเวลาใกล้สนธยาเต็มแก่ ผมชั่งใจเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนตัดสินใจเดินหายเข้าไปในดงไม้เบื้องหน้า โดยมีจอบเล่มหนึ่งและถุงปุ๋ยเปล่าหนึ่งใบติดตัวไปด้วย ผมเข้ามาปรากฏตัวในป่าช้าผีตายโหงประจำหมู่บ้าน สถานที่นี้แยกอยู่ต่างหากจากป่าช้าของคนป่วยตาย เพราะประเพณีของคนลุ่มแม่โขงเชื่อว่า คนตายปัจจุบันทันด่วนจะนำความหายนะมาสู่หมู่บ้าน ต้องฝังไว้ไม่น้อยกว่าหนึ่งปี จากนั้นค่อยขุดขึ้นมาเผาตามประเพณี ดงไม้แห่งนี้ยามกลางวันยังไม่ค่อยมีใครกล้าเสียดเข้าใกล้ แต่เวลานี้ช่วงใกล้ค่ำผมกลับไม่มีท่าทีขลาดกลัว อาศัยได้บวชหนึ่งพรรษาจึงพอทำให้จิตใจหนักแน่นไม่วอกแวก ผมได้ยินชาวบ้านลือกันว่า เห็นปลาไหลขนาดปล้องแขนแถวป่าช้าผีตายโหง อีกอย่างผมเคยมาช่วยชาวบ้านขุดหลุมฝังศพบ่อยๆ บางครั้งฟันจอบลงไปพบปลาไหล แต่ไม่มีใครกล้านำกลับบ้านไปทำอาหาร เพราะมีคนบอกว่าสัตว์ประเภทนี้ชอบกินเนื้อเปื่อยเน่าทุกชนิดไม่เว้นศพ แต่เวลานี้ผมเข้ามาในป่าช้าเพื่อต้องการปลาไหล เป็นเพราะความจนบีบบังคับให้ผมทำทุกอย่าง เพื่อประทังความหิว อีกอย่างช่วงนี้ใกล้เปิดเทอมของลูกวัยประถม หากผมโชคดีพบรังปลาไหล จะนำไปขายตลาดที่อยู่ห่างไกลหมู่บ้าน เหตุผลนี้เองผมต้องแอบเข้ามาบริเวณป่าช้าตอนกลางคืน เพราะไม่อยากให้ใครเห็นพฤติกรรมอุบาทว์ของผม และผมต้องทำทุกขั้นตอนให้เสร็จภายในคืนนี้ ผมนึกถึงลูกสาวทั้งสองคนที่ออดอ้อน อยากได้เครื่องแบบ

เล่าเรื่องผี เรื่องสยองของคืนหลอนก่อนสอบ

ยามบ่ายที่แสนสดใสของวันนี้ พลอยหญิงสาวที่มีน่าตาดีอยู่ในระดับหนึ่ง เธอเป็นนิสิตแพทย์ปีสองจัดว่าเป็นหัวกะทิต้นๆของระดับชั้นเลยก็ว่าได้ เธอเดินมากับพิม เพื่อนสนิทของเธออีกคนหนี่ง พิมเป็นคนที่รูปร่างหน้าตาดี มีเสน่ห์ สวย แต่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร พวกเธอทั้งสองเดินมานั่งโต๊ะม้าหินอ่อนที่ประจำข้างๆตึกเรียนคณะแพทย์ศาสตร์ “ตายแล้ว!!!

นี้มันครั้งที่ 3 แล้วนะ” เสียงอุทานจากโต๊ะข้างๆดังขึ้นมา เธอรู้อยู่แก่ใจว่ามันคงไม่พ้นเรื่องสุดสยองนั้นแน่นอน เรื่องที่ว่า…ศพที่ถูกแช่ในห้องเก็บศพของทางคณะถูกควักอวัยวะภายในหายไปอย่างไร้ร่องรอย เธอเองก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรมากนัก เพราะว่าอีกสองวันก็จะสอบเก็บคะแนน เธอจึงไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้มากนัก “เฮ้อ..วันมะรืนก็ผ่ากรอสเก็บคะแนนอีก(ผ่ากรอสหรือผ่าอาจาร์ยใหญ่)ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยว่ามั้ยพิม” “อืม..คงต้องอ่านหนังสือหนักหน่อย” พลอยพยักหน้าหงึกๆเห็นด้วยกับสิ่งที่พิมพูดไป

พอตกเย็นหลังจากที่พลอยกับพิมกินข้าวเย็นเสร็จแล้ว พวกเธอก็รีบไปอ่านหนังสือที่หอพัก หอที่เธอพักเป็นหอหญิงของมหาลัย ทั้งสองแข่งกันอ่านหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตาย จนกระทั่งเที่ยงคืนพลอยกับพิมรูสึกว่าเริ่มไม่ไหวแล้ว จึงตกลงกันว่าจะมาอ่านพรุ่งนี้ตอนเช้า จนกระทั่งตีสาม พลอยได้ยินเสียงกุกกักข้างๆเตียงของเธอ เธอจึงลืมตาขึ้นมาดู เธอเห็นพิมเดินออกไปนอกห้อง เธอไม่รู้ว่าพิมไปไหนในยามวิกาลเช่นนี้ ด้วยความง่วงเธอจึงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก พิมน่าจะไปธุระมั้งเธอคิดเช่นนี้แล้วจึงเผลอหลับไป “

พลอย..พลอย ตื่นได้แล้ว ได้เวลาอ่านหนังสือแล้วนะ” พลอยค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็พบว่าพิมนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เตียงของหล่อน เธอจึงรีบลุกขึ้นมาตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือจนถึงรุ่งเช้า โดยที่ลืมถ้าพิมถึงเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้น

อะไรนะ มีศพที่สี่อีกแล้วหรอ” แน่หละไม่พ้นเรื่องอวัยะภายในศพหายไปอีกแน่นอน เฮ้อทำไมพักนี้มีแต่

ผีเปรตในตำนานผีไทย

ผีเปรตในตำนานผีไทยกล่าวไว้ว่า มีอยู่ 12 ตระกูลให_่ๆ ใครอยากจะทราบราย ละเอียดต้องไปดูในคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเปรตโดยเฉพาะ นิรยกถาอันเป็นคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเปรตโดยเฉพาะ หรือดูจากจารึกการเปรีย_ ณ วัดพระเชตุพนฯ และห าอ่านได้จากประชุมศิลาจารึกวัดพระเชตุพนฯ เล่ม 1 ซึ่งคัดลอกและถ่ายทอดมาโดยย่อ ดังนี้

หิมวนตปปเทเส วิชาติเปโต นาม เปตวิสโย กาลครั้งหนึ่งยังมี ประเทศแห่งหนึ่งใ นป่าหิมพานต์ ชื่อว่าวิชาตประเทศ ตั้งอยู่เบื้องบนแห่งนรกขึ้นมา อันเป็นที่อยู่แห่งเปรตทั้งหลายมีมหิทธกาเปรตเป็นอธิบดีแก่เปรตทั้งปวง และตระกูลเปรตนั้นมีอยู่ 12 ตระกูล คือ
1. วันตาสาเปรตตระกูล
2. กูณปขาทเปรตตระกูล
3. คูถขาทเปรตตระกูล
4. อัคคิชาลมุขเปรตตระกูล
5. สุจิมุขเปรตตระกูล
6. ตัณหาชิตาเปรตตระกูล
7. นิชฌามกเปรตตระกูล
8. สัตตังคาเปรตตระกูล
9. ปัพพตังคาเปรตตระกูล
10. อัชครังคาเปรตตระกูล
11. เวมานิกเปรตตระกูล
12. มหิทธิกาเปรตตระกูล

นอกจากเปรต 12 ตระกูลนี้ ยังมีเปรตอีก 19 จำพวก ได้แก่
1. สุจิโลมา คือ เปรตผู้มีขนเป็นเข็ม
2. ขุรโลมา คือ เปรตผู้มีขนเป็นกรด
3. เอกปาทา คือ เปรตผู้มีเท้าข้างเดียว
4. อเนกปาทา คือ เปรตผู้เท้ามาก
5. เอกหตถา คือเปรตผู้มีมือข้างเดียว
6. อเนกหตถา คือ เปรตผู้มีมือมาก
7. เอกเจตตา คือ เปรตผู้มีจักษุข้างเดียว
8. อเนกเนตตา คือ เปรตผู้มีจักษุมาก
9. ได้แก่ เปรตจำพวกที่กินมลทินครรภ์เป็นอาหาร
10. ได้แก่ เปรตจำพวกขนหยักเยื่อทูลศีรษะไว้เป็นนิตย์
11. ได้แก่ เปรตจำพวกกายยาว 25 เส้น นอนกลิ้งอยู่ดุจแผ่นศิลา
12. ได้แก่ เปรตจำพวกตัวจมอยู่บนภูเขาเพียง สะเอว ไฟไหม้อยู่
13. ได้แก่ เปรตพวกไถนาอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน
14. ได้แก่ เปรตจำพวกมีกายสูง มีกลิ่นตัวเหม็นยิ่งนัก
15. ได้แก่ เปรตจำพวกมีพืชเป็นเหล็กเป็นเปลวเพลิงรัดศีรษะอยู่
16. ได้แก่ เปรตจำพวกมีร่างกายผอม และเปลือยกายอยู่ตลอดเวลา
17. ได้แก่ เปรตจำพวกรูปชั่วตัวผอม สะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น ศีรษะกลั้วไปด้วยฝุ่น
18. ได้แก่เปรตจำพวกดำดุจตอไฟไหม้ และ
19. ได้แก่ เปรตจำพวกสูงเท่าลำตาล มีแต่หนังหุ้มกระดูก

เปรตไม่สมประกอบ 4 ชนิด 
1. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างไม่สมประกอบ ร่างกายซูบผอมอดโซ
2. ได้แก่ เปรตชนิดที่มีรูปร่างพิการ เช่น กายเป็นอย่างร่างของมนุษย์ แต่ศีรษะ เป็นอย่างสัตว์ดิรัจฉาน เช่น ตัวเป็นคนหัวเป็นนกกาบ้าง...

วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อุปกรณ์เดินป่า

ผมเป็นเด็กบ้านนอกคนนึงมีบ้านอาศัยอยู่ติดกับป่าครับคือมองออกไปนอกบ้านก็เห็นป่าต้นไม้เขียวขจีเลยครับแน่นอนผมต้องมีเต็นท์มีอุปกรณ์เดินป่าไว้บ้างแหละเพราะผมชอบไปกางเต็นท์เดินป่าล่าสัตว์กับเพื่อนๆไม่ใช่สัตว์ใหญ่อะไรหรอกนะครับก็จำพวก ไก่ป่าหรือไปวางเบ็ตอันเล็กๆที่ทำมาจากไม้ไผ่แต่ละที่ก็จะเรียกชื่อไม่เหมือนกันเอาเป็นว่ามันคือเบ็ดก็แล้วกันนะครับ เข้าเรื่องกันเลยครับผมกับเพื่อนนัดกันจะไปเดินป่าอีก2วันข้างหน้าผมจึงไปหาซื้ออุปกรณ์เดินป่าอยากได้อันใหม่จึงชวนเพื่อนไปซื้อร้านก็ไม่ไกลจากหมู่บ้านมากครับ ผมไปซื้อก็ไม่มีอะไรมากตั้งใจไปซื้อของที่ไม่ใหญ่มากนักก็มีพวกไฟฉาย รองเท้า เสื้อแขนยาว แล้วก็รังผึ้ง(มันก็เป็นแผ่นเหล็กมีรูครับเวลาตั้งไฟก็ขุดดินแล้วเอาแผ่นเหล็กวางจากนั้นก็หม้อครับประมาณนี้)แต่บังเอิญผมเหลือบไปเห็นถุงนอนอยู่อันนึงผมจึงถามเจ้าของร้านว่าอันนี้ขายรึปล่าวครับเจ้าของร้านก็เงียบไปซักพักนึงแล้วก็บอกว่าของเค้ามันนานแล้วถาอยากได้ก็จะให้ ผมไม่รอช้าครับคิดว่ามาซื้อแล้วได้ของแถมเป็นถุงนอนคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเลยต้ดสินใจเอาพอเสร็จก็กลับบ้านกับเพื่อนครับ มาถึงวันที่ต้องเดินป่ากันพวกเราไปกัน5คนครับเริ่มเดินตอนสายๆเราเดินไปอย่างชำนาญครับเพราะไม่ใช่ป่าไกลที่ไหนเป็นป่าที่เราคุ้นเคยตั้งแต่เล็กก็เริ่มเลยครับอย่างแรกเราวางเบ็ตกันก่อนครับเบ็ดไม้ไผ่อันเล็กๆคนละ10อันกะไว้วางไว้ข้ามคืนแล้วค่อยมาดูพอวางเสร็จก็หาที่พักกางเต็นท์ครับเราไม่ได้นอนบนต้นไม้หรอกนะครับ